Highlight แนวทางการรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันการเตรียมตัวรับการรักษาอัพเดท 8 วิธี แนวทางการรักษามะเร็ง
ปัจจุบันวิธีการรักษามะเร็งมีหลายวิธี โดยวิธีการรักษาที่ผู้ป่วยได้รับขึ้นอยู่กับประเภท และระยะการแพร่กระจายของโรคมะเร็ง ในผู้ป่วยบางรายอาจมีการรักษาเพียงวิธีเดียวเท่านั้น ในขณะที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะใช้วิธีการรักษาร่วมกัน หลายวิธี เช่น การรักษาด้วยเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสี
การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยทั่วไปจะเริ่มตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา เซลล์วิทยา การตรวจทางรังสีเพื่อประเมินระยะ และการแพร่กระจายของโรค เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ป่วย ก่อนเริ่มทำการรักษา โดยเน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เเละเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด แก่ผู้ป่วย โดยคำนึงถึงปัจจัยทั้งด้านร่างกาย และจิตใจของผู้ป่วยเป็นสำคัญ
การเตรียมตัวรับการรักษา
เมื่อผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง นอกจากการกินอยู่และการดูแลสุขภาพร่างกาย ให้แข็งแรงแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกับผู้ป่วย คือสุขภาพจิต เพราะถ้าผู้ป่วยเกิดความเครียดหรือสุขภาพจิตย่ำแย่ จะส่งผลต่อการรักษาได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกหนักใจและสับสนกับสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ เเต่การพูดคุยกับแพทย์ และการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางการรักษาจะช่วยให้ผู้ป่วย และคนใกล้ชิดรู้สึกสบายใจ สามารถรับมือกับสถานการณ์ระหว่างการรักษาได้
การรับข้อมูลที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้รักษาโดยตรงจะทำให้ผู้ป่วยรู้ว่า ในความโชคร้ายนั้นยังมีความโชคดี เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปมาก และมีแนวทางการรักษาโรคมะเร็งที่หลากหลายมากขึ้น
8 วิธี แนวทางการรักษามะเร็งในปัจจุบัน
1. การรักษาด้วยเคมีบำบัด คือ การใช้ยาเพื่อทำลายหรือหยุดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยส่วนใหญ่การรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดนี้ มักทำร่วมกับการรักษาด้วยแนวทางอื่น ๆ เช่น ยามุ่งเป้า หรือรังสีรักษา
2.การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด คือ การสร้างความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สามารถเข้าทำลายเซลล์มะเร็งได้
3. การรักษาด้วยรังสี เป็นการรักษาที่ใช้รังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง และทำให้เนื้องอกหดตัว แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ การฉายแสงหรือฉายรังสี โดยเป็นการรักษาจากภายนอก ไปยังอวัยวะของร่างกายที่เป็นมะเร็ง และการฝังแร่หรือกลืนสารกัมมันตรังสีเข้าไป เพื่อปล่อยสารกัมมันตรังสีเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งที่อวัยวะเป้าหมาย
4. การรักษาโดยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด เป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ต้นกำเนิด ในผู้ป่วยมะเร็งที่เซลล์เม็ดเลือดถูกทำลายจากการใช้เคมีบำบัด หรือการฉายรังสีในปริมาณมาก วิธีการเพิ่มเซลล์ต้นกำเนิดในร่างกายผู้ป่วย เป็นวิธีการที่ทำให้ร่างกายสามารถสร้างเซลล์เม็ดเลือด และเพิ่มภูมิคุ้มกันใหม่ได้
5. การรักษาด้วยการศัลยกรรม คือการผ่าตัดเซลล์มะเร็งด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น การผ่าตัดทั่วไป การผ่าตัดส่องกล้อง การผ่าตัดโดยใช้ความเย็น การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ การผ่าตัดด้วยคลื่นวิทยุเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง หรือการผ่าตัดโดยใช้ความร้อน
6. การรักษาด้วยยามุ่งเป้า คือ การรักษามะเร็งประเภทหนึ่งที่ให้ยาเข้าไปจัดการที่เซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะ โดยมุ่งเป้าไปทำให้เซลล์มะเร็งถูกทำลาย หรือหยุดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตามก่อนการรักษาด้วยยามุ่งเป้า จำเป็นต้องมีการศึกษาลักษณะเฉพาะ ของเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นก่อน แล้วเลือกใช้ยาที่ตรงกับเซลล์นั้นที่สุด
7. การรักษามะเร็งเฉพาะจุด เป็นการรักษามะเร็งโดยใช้อุปกรณ์จี้ทำลายก้อนมะเร็งด้วย ความร้อน หรือฉีดยาอุดกั้นเส้นเลือดที่เลี้ยงก้อนมะเร็ง
8. การบำบัดด้วยฮอร์โมน คือการรักษาด้วยฮอร์โมน เพื่อช่วยชะลอหรือหยุดการเจริญเติบโต ของมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งเป็นมะเร็งที่ใช้ฮอร์โมนในการเจริญเติบโต
ด้วยวิทยาการก้าวหน้าที่ได้กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้การรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญถ้ายิ่งรู้ตัวเร็วและรักษากันตั้งแต่ต้นจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้หายขาดได้มากขึ้น รวมถึงลดภาวะแทรกซ้อน และความเสี่ยงต่าง ๆ ให้ลดน้อยลงได้
อ้างอิง
National Cancer Institute. Types of Cancer Treatment. . https://www.cancer.gov/about-cancer/treatment/types. Accessed September 2023.
The American Cancer Society. Managing Cancer Care. .https://www.cancer.net/navigating-cancer-care. Accessed May 2021
The American Cancer Society. Understanding Your Options and Making Treatment Decisions. .https://www.cancer.net/navigating-cancer-care/how-cancer-treated/making-decisions-about-cancer-treatment. Accessed May 2021
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล. แนวทางการรักษามะเร็ง 7 วิธีในปัจจุบัน. .https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/issue047/health-station . Accessed January 2023
Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ. .https://www.hfocus.org/content/2024/02/29679. Accessed February 2024
TH-19840